SSL Certificate คืออะไร

SSL

ธุรกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจการค้า หรือธุรกิจออนไลน์ เพราะมีความสะดวกและรวดเร็วในการการติดต่อสื่อสาร แต่ช่องทางการใช้ระบบอินเตอร์เน็ตก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มแฮกเกอร์พยายามค้นหาช่องโหว่ต่างๆ เพื่อดักจับข้อมูลในระบบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียตามมาได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นผ่านระบบอินเตอร์เน็ต SSL Certificate จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการปกป้องข้อมูลของท่าน

SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นมาเป็น TLS (Transport Layer Security) คือ เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์กับเว็บเบราว์เซอร์หรือ Application ที่ใช้งาน เพื่อให้ข้อมูลของท่านปลอดภัยจากการเข้าถึงข้อมูลจากแฮกเกอร์ โดยวิธีการเรียกใช้งาน จะเรียกผ่านโปรโตคอล HTTPS หรือโปรโตคอลความปลอดภัยอื่นๆ ตามแต่วิธีการใช้งาน

SSL Certificate คือใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ได้มีการผูกไว้กับ Private Key ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เพื่อยืนยันตัวตนและความถูกต้องในการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์กับเว็บเบราว์เซอร์หรือ Application ที่ใช้งาน มีการเข้ารหัสและถอดรหัสผ่านเทคโนโลยี SSL/TLS หากข้อมูลของท่านถูกดักจับไปได้ ข้อมูลของท่านก็ยังมีความปลอดภัย เพราะแฮกเกอร์จะไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลของคุณได้ เนื่องจากข้อมูลที่ได้ไปจะอยู่ในรูปแบบที่อ่านไม่ออก จะต้องมีคีย์ถอดรหัสที่เหมาะสมและตรงกันเท่านั้นถึงจะสามารถถอดรหัสได้

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า SSL มีหลายประเภท

แน่นอนว่าเราไม่สามารถแยกประเภทของ SSL Certificate จากการมองเพียงผิวเผินได้ เพราะสิ่งเดียวที่ทุกคนสังเกตว่าเว็บไซต์ไหนมี SSL คือ URL Address Bar ที่ขึ้นต้นด้วย HTTPS ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว SSL  Certificate มี 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

  1. แบบ Domain Validation SSL (DV) แบบ DV เป็นประเภทใบรับรองความปลอดภัยที่ออกได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เนื่องจากมีขั้นตอนการตรวจสอบไม่เยอะ เพราะทำการตรวจสอบความเป็นเจ้าของ Domain เท่านั้น โดยไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ เพิ่มเติม ทำให้สามารถอนุมัติการออกใบรับรองได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
  2. แบบ Organization Validation SSL (OV) แบบ OV เป็นประเภทใบรับรองความปลอดภัยสำหรับเว็บไซต์ระดับองค์กร หรือเว็บไซต์บริษัท และหน่วยงานต่างๆ ที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและเข้มงวด เช่น ตรวจสอบความเป็นเจ้าของ Domain ตรวจสอบการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ตรวจสอบข้อมูลขององค์กรเพิ่มเติมผ่านทางโทรศัพท์ เป็นต้น
  3. แบบ Extended Validation SSL (EV) แบบ EV เป็นประเภทใบรับรองความปลอดภัยระดับสูงสุด และมีการตรวจสอบที่เข้มงวดที่สุด เนื่องจากเป็นใบรับรองความปลอดภัยสำหรับเว็บไซต์ระดับองค์กร หรือบริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงหน่วยงานที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง

ความจำเป็นที่จะต้องมี SSL

ในยุคปัจจุบัน SSL มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกวันนี้ “ข้อมูล” เป็นสิ่งสำคัญ ที่ทุกคนไม่ต้องการให้ข้อมูลของตัวเองถูกลักลอบออกไป โดย SSL จะเข้ามาช่วยในเรื่องของความปลอดภัย แม้ว่าจะถูกดักจับข้อมูล ผู้ได้ข้อมูลก็จะไม่สามารถอ่านสิ่งที่คุณส่งไปได้ หากไม่มีคำว่า HTTPS ไม่เพียงแต่ข้อความสำคัญ User และ Password ก็สามารถถูกขโมยไปได้อย่างง่าย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ Google แนะนำให้ใช้ HTTPS สังเกตได้จากเวลาที่คุณเข้าใช้งาน Chrome ในเว็บไซต์ที่ไม่มี HTTPS จะมีการเตือนด้านหน้าว่าเว็บไซต์นี้ Not Secure อีกทั้ง Google ยังเคยประกาศอีกว่าจะเพิ่มคะแนนเว็บไซต์ หากใช้งาน HTTPS เพื่อจัดลำดับ Ranking เรียกได้ว่า HTTPS ก็มีผลต่อ SEO นั่นเอง

ดังนั้น SSL จึงตอบโจทย์เรื่องของความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการบนเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย เพราะเมื่อคุณได้ทำการจดทะเบียน SSL Certificate เรียบร้อยแล้ว เว็บไซต์ของคุณจะเปลี่ยนจาก HTTP เป็น HTTPS ที่เป็นการรับประกันว่าเว็บไซต์นี้ได้มีการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ SEO ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน