วิธีใช้งาน Yoast SEO เบื้องต้น สำหรับผู้เริ่มต้น

การใช้ Yoast SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีการปรับแต่งที่ดีสำหรับ SEO และทำให้ไฟสองอัน (SEO และความอ่านง่าย) เป็นสีเขียว มีวิธีการดังนี้:

ขั้นตอนการใช้งาน Yoast SEO

  1. ติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอิน Yoast SEO:
    • ไปที่ Dashboard ของ WordPress
    • เลือก “Plugins” > “Add New” แล้วค้นหา “Yoast SEO”
    • คลิก “Install Now” แล้วเลือก “Activate” เพื่อเปิดใช้งาน
  2. ตั้งค่าพื้นฐานของ Yoast SEO:
    • ไปที่เมนู Yoast SEO ใน Dashboard แล้วเลือก “General”
    • ทำตาม Wizard สำหรับการตั้งค่าเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยให้ Yoast เข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น
  3. สร้างเนื้อหาโดยใช้ Yoast SEO:
    • เมื่อคุณเขียนบทความใหม่ ให้สังเกต Yoast SEO ที่ด้านล่างของหน้าต่างการเขียน
    • คุณจะเห็นสองตัวเลือก คือ “SEO Analysis” และ “Readability Analysis”

วิธีทำให้ไฟสองอันเป็นสีเขียว

ส่วนที่ 1: ทำให้ไฟ SEO เป็นสีเขียว

  1. Focus Keyphrase (คำหลัก) เลือกคำหลักที่เกี่ยวข้องกับบทความและตรงกับสิ่งที่ผู้คนค้นหา เช่น ถ้าบทความเป็นเรื่อง “การท่องเที่ยวในเชียงใหม่” ให้คำหลักเป็น “ท่องเที่ยวเชียงใหม่” ใส่คำหลักนี้ในช่อง Focus Keyphrase ใน Yoast SEO เพื่อเริ่มการวิเคราะห์
  2. การใช้คำหลักในบทความ: ใส่คำหลักใน หัวข้อหลัก (Title) ของบทความ (ควรอยู่ด้านหน้าสุดถ้าเป็นไปได้) และตั้งให้ความยาวของหัวข้ออยู่ที่ประมาณ 50-60 ตัวอักษร ใช้คำหลักใน URL ของหน้า ให้สั้นและเข้าใจง่าย เช่น www.yoursite.com/ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ใส่คำหลักใน คำอธิบายเมตา (Meta Description) โดยให้มีความยาวระหว่าง 120-155 ตัวอักษร เพื่อให้ Google แสดงผลลัพธ์เป็นตัวอย่างคำค้นหานั้น เนื้อหา: ใช้คำหลักอย่างสม่ำเสมอในเนื้อหาของบทความ แต่อย่าใส่มากเกินไป (Keyword Stuffing) คำหลักควรอยู่ในเนื้อหาประมาณ 2-3% ของคำทั้งหมดในบทความ
  3. ลิงก์ภายในและภายนอก: ลิงก์ภายใน (Internal Links): ลิงก์ไปยังบทความหรือหน้าอื่นๆ บนเว็บไซต์ของคุณเองที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิงก์ภายนอก (External Links): ลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ข้อมูลอ้างอิงหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
  4. รูปภาพและ Alt Text: ใส่รูปภาพที่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหา และใช้คำหลักใน Alt Text ของรูปภาพ เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจความหมายของภาพและเพิ่มคะแนน SEO
  5. ความยาวของบทความ: ควรมีเนื้อหาที่มีความยาวอย่างน้อย 300 คำ (Yoast แนะนำให้มีมากกว่า 900 คำสำหรับการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ)
  6. การใช้หัวข้อย่อย (H2, H3): ใช้หัวข้อย่อยที่มีคำหลักหรือคำที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ ทำให้เนื้อหาอ่านง่ายและมีโครงสร้างที่ดี

ส่วนที่ 2: ทำให้ไฟความอ่านง่าย (Readability) เป็นสีเขียว

  1. ประโยคและย่อหน้าสั้นๆ:แยกประโยคให้สั้นและเข้าใจง่าย ประโยคไม่ควรเกิน 20 คำ ย่อหน้าไม่ควรยาวเกิน 3-4 บรรทัด
  2. หัวข้อย่อย (Subheadings):ใช้หัวข้อย่อย (H2, H3) เพื่อแยกเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ ทำให้ผู้อ่านติดตามเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
  3. คำเชื่อม (Transition Words):ใช้คำเชื่อม เช่น “ดังนั้น,” “เพราะว่า,” และ “โดยเฉพาะ” ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านเชื่อมโยงความคิดระหว่างประโยคได้ดียิ่งขึ้น
  4. การใช้เสียงแบบ Active Voice:ใช้ประโยคที่เป็น Active Voice มากกว่า Passive Voice เพราะทำให้เนื้อหาดูเป็นธรรมชาติและอ่านง่ายขึ้น
  5. ประโยคที่ยาวเกินไป:หลีกเลี่ยงการใช้ประโยคที่ยาวเกิน 20 คำ หากจำเป็นต้องใช้ประโยคยาว ควรแบ่งออกเป็น 2-3 ประโยคแทน
  6. การใช้คำง่ายๆ:หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ที่ยากหรือคำย่อที่ซับซ้อน ทำให้ผู้อ่านทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น
  7. รายการ Bullet Points และการจัดลำดับ:ใช้ Bullet Points หรือการลำดับ (Numbered List) เพื่อให้ข้อมูลเป็นโครงสร้าง อ่านและทำความเข้าใจง่ายขึ้น